สวิตช์แรงหวี่ยงใน สปลิทเฟสมอเตอร์ (Split Phase Motor) ทำงานอย่าไง

สวิตช์แรงหวี่ยงใน สปลิทเฟสมอเตอร์ (Split Phase Motor) ทำงานอย่าไง


หมวดหมู่:ระบบไฟฟ้า Electrical System วันที่:2022-03-19

สวิตช์แรงหวี่ยงใน สปลิทเฟสมอเตอร์ (Split Phase Motor) ทำงานอย่าไง


             สปลิทเฟสมอเตอร์ (Split Phase Motor) นั้นจะมีขดลวดอยู่ 2 ขดด้วยกัน คือ ขดลวดรัน (Run Winding)และขดลวดสตาร์ท (Start Winding) โดยที่ขดลวดสตาร์ท (Start Winding) นั้นจะต่ออนุกรมกับสวิตช์แรงหวี่ยงภายในของตัวมอเตอร์ ซึ่งสวิตช์แรงหวี่ยงจะทำหน้าที่ตัดต่อกระแสไฟที่ผ่านขดลวดสตาร์ท (Start Winding) ไม่ว่าการต่อนั้นจะเป็นแบบมอเตอร์หมุนตามเข็มนาฬิกาหรือมอเตอร์หมุนตามทวนนาฬิกา

 

รูปแสดง วงจรของสปลิทเฟสมอเตอร์ขณะเริ่มทำงานแบบมอเตอร์หมุนตามเข็มนาฬิกา

 
รูปแสดง วงจรของสปลิทเฟสมอเตอร์ขณะเริ่มทำงานแบบมอเตอร์หมุนทวนเข็มนาฬิกา

 

             จากรูปข้างบนจะเห็นได้ว่าสวิตช์แรงหวี่ยงจะกับขดลวดสตาร์ท (Start Winding) ไม่ว่าการต่อนั้นจะเป็นแบบมอเตอร์หมุนตามเข็มนาฬิกาหรือมอเตอร์หมุนตามทวนนาฬิกา เมื่อเริ่มปล่อยกระแสไฟเข้าไปยังมอเตอร์กระแสไฟจะผ่านขดลวดพร้อมกัน 2 ขดทั้งขดลวดรัน และขดลวดสตาร์ท ทำให้ตัวมอเตอร์หมุนซึ่งตอนนี้รอบของมอเตอร์ยังต่ำอยู่

           โดยที่ขดลวดสตาร์ทที่ต่อกับสวิตช์แรงหวี่ยง ชุดหน้าคอนเทคตัวเคลื่อนที่และตัวอยู่กับที่ยังต่อกันอยู่และตุ้มเหวี่ยงยังไม่กางออก (ดังรูปข้างล่าง)

 

รูปแสดง ชุดหน้าคอนเทคตัวเคลื่อนที่และตัวอยู่กับต่อกัน

 


รูปแสดง ตุ้มเหวี่ยงยังไม่กางออก

 

            เมื่อผ่านไปสักพักความเร็วรอบของแกนโรเตอร์จะเพิ่มขึ้น ทำให้ตุ้มเหวี่ยงที่สวมกับแกนโรเตอร์กางออก ดังรูปข้างล่าง

 

รูปแสดง ตุ้มเหวี่ยงยังกางออก


           ตุ้มเหวี่ยงจะไปดันแผ่นกดหน้าคอนเทคตัวเคลื่อนที่ แยกออกจากตัวอยู่กับที่ ดังรูปข้างล่าง

 
รูปแสดง ชุดหน้าคอนเทคตัวเคลื่อนที่และตัวอยู่กับแยกจากกัน


          ซึ่งตอนนี้มอเตอร์จะทำงานด้วยกระแสไฟที่ผ่านขดลวดรันเท่านั้น ดังรูปข้างล่าง

 

รูปแสดง วงจรของสปลิทเฟสมอเตอร์แบบมอเตอร์หมุนตามเข็มนาฬิกา (ขดลวดสตาร์ทโดนตัดวงจร)

 

 

รูปแสดง วงจรของสปลิทเฟสมอเตอร์แบบมอเตอร์หมุนทวนเข็มนาฬิกา (ขดลวดสตาร์ทโดนตัดวงจร)


คลิปเกี่ยวกับ ทำงานของสวิตช์แรงหวี่ยงใน สปลิทเฟสมอเตอร์ (Split Phase Motor)
 

 

ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=umxp2pMxOfM